รู้จักบรรจุภัณฑ์พลาสติก! ประเภท ข้อดี-ข้อเสีย ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเทรนด์ใหม่ล่าสุด เพื่อเลือกใช้พลาสติกอย่างยั่งยืน!
บรรจุภัณฑ์พลาสติกเป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมอาหารในปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย ทำให้พลาสติกถูกนำมาใช้ในการบรรจุอาหารหลากหลายประเภท
บทบาทของบรรจุภัณฑ์พลาสติกในอุตสาหกรรมอาหาร
- ปกป้องอาหารจากสิ่งปนเปื้อน
- ยืดอายุการเก็บรักษา
- อำนวยความสะดวกในการขนส่งและจัดเก็บ
ทำไมพลาสติกจึงเป็นวัสดุหลักที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์อาหาร
- น้ำหนักเบา
- ต้นทุนต่ำ
- ขึ้นรูปได้หลากหลาย
เทรนด์การใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกในปัจจุบัน
- การใช้พลาสติกรีไซเคิล
- การพัฒนาพลาสติกชีวภาพ
- การลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
ประเภทของบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ในอาหาร
พลาสติกมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหาร เนื่องจากมีคุณสมบัติที่หลากหลาย ปรับแต่งได้ง่าย และมีต้นทุนที่เหมาะสม การทำความเข้าใจประเภทของพลาสติกและการใช้งานที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
1. PET (Polyethylene Terephthalate)
- เป็นพลาสติกใส แข็งแรง และทนทานต่อสารเคมี เหมาะสำหรับบรรจุเครื่องดื่มและอาหาร
- การใช้งาน : ขวดน้ำดื่ม , ขวดน้ำผลไม้ , ภาชนะบรรจุอาหารสำเร็จรูป
- ข้อควรระวัง : ไม่เหมาะสำหรับบรรจุอาหารร้อนจัด หรือใช้ซ้ำเป็นเวลานาน
2. PP (Polypropylene)
- ทนความร้อนสูง ทนทานต่อสารเคมี และปลอดภัยสำหรับอาหารร้อน
- การใช้งาน : บรรจุภัณฑ์สำหรับไมโครเวฟ , ถ้วยโยเกิร์ต , กล่องอาหารร้อน
- ข้อดี : สามารถนำไปอุ่นในไมโครเวฟได้
3. PE (Polyethylene – HDPE , LDPE)
3.1 HDPE (High-Density Polyethylene)
- แข็งแรง ทนทานต่อสารเคมี เหมาะสำหรับบรรจุของเหลว
- การใช้งาน : ขวดนม , ขวดน้ำยาทำความสะอาด , ถุงพลาสติกหนา
3.2 LDPE (Low-Density Polyethylene)
- ยืดหยุ่น ทนทานต่อการกระแทก เหมาะสำหรับฟิล์มห่ออาหาร
- การใช้งาน : ถุงพลาสติก, ฟิล์มห่ออาหาร, ถุงแช่แข็ง
4. PVC (Polyvinyl Chloride)
- ยืดหยุ่น ทนทานต่อสารเคมี แต่มีข้อกังวลเรื่องสารเคมีที่อาจปนเปื้อน
- การใช้งาน : ฟิล์มห่ออาหาร , บรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร
- ข้อควรระวัง : ควรหลีกเลี่ยงการใช้กับอาหารที่มีไขมันสูง หรืออาหารร้อน
5. PS (Polystyrene)
- น้ำหนักเบา เป็นฉนวนกันความร้อน แต่เปราะและแตกง่าย
- การใช้งาน : กล่องโฟม , ถ้วยกาแฟ , บรรจุภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป
- ข้อควรระวัง : ควรหลีกเลี่ยงการใช้กับอาหารร้อนจัด หรืออาหารที่มีไขมันสูง
6. PLA (Polylactic Acid)
- พลาสติกชีวภาพที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ย่อยสลายได้
- การใช้งาน : บรรจุภัณฑ์อาหาร , ถ้วย, ช้อนส้อม
- ข้อดี : เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ข้อเสีย : ราคาค่อนข้างสูง
- แนะนำอ่าน : Eco-Friendly Packaging – ทางเลือกใหม่ของบรรจุภัณฑ์อาหารรักษ์โลก

ตารางเปรียบเทียบประเภทพลาสติก
ประเภทพลาสติก | ข้อดี | ข้อเสีย | การใช้งาน |
PET | ใส, แข็งแรง, รีไซเคิลง่าย | ไม่ทนความร้อนสูง | ขวดน้ำ, ขวดน้ำผลไม้ |
PP | ทนความร้อน, แข็งแรง, ปลอดภัยกับอาหาร | ไม่ใสเท่า PET | บรรจุภัณฑ์ไมโครเวฟ, ถ้วยโยเกิร์ต |
PE (HDPE) | แข็งแรง, ทนทาน, ทนสารเคมี | ไม่ใส, ไม่ยืดหยุ่น | ขวดนม, ขวดน้ำยาทำความสะอาด |
PE (LDPE) | ยืดหยุ่น, ทนทาน, ราคาถูก | ไม่แข็งแรงเท่า HDPE | ถุงพลาสติก, ฟิล์มห่ออาหาร |
PVC | ใส, ยืดหยุ่น, ทนทาน | มีสารเคมีอันตราย, รีไซเคิลยาก | ฟิล์มห่ออาหาร, ท่อ |
PS | ราคาถูก, ขึ้นรูปง่าย, เป็นฉนวนกันความร้อน | เปราะ, แตกง่าย, รีไซเคิลยาก | กล่องโฟม, ถ้วยกาแฟ |
PLA | ย่อยสลายได้, ทำจากวัสดุธรรมชาติ | ราคาแพง, ต้องการสภาวะที่เหมาะสมในการย่อยสลาย | บรรจุภัณฑ์อาหาร, ถ้วย |
บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบ่งตามลักษณะการใช้งาน
1. Rigid Plastic Packaging (บรรจุภัณฑ์พลาสติกแข็ง)
- มีรูปทรงที่แน่นอน แข็งแรง ทนทาน เหมาะสำหรับบรรจุของเหลวและอาหารแห้ง
- การใช้งาน : ขวดน้ำ , กล่องพลาสติก , กระปุก
2. Flexible Plastic Packaging (บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบยืดหยุ่น)
- มีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ง่าย เหมาะสำหรับบรรจุอาหารหลากหลายประเภท
- การใช้งาน : ถุงพลาสติก , ซอง , ฟิล์มห่ออาหาร
แนะนำอ่านเพิ่มเติม : Flexible Packaging คืออะไร? ข้อดีของบรรจุภัณฑ์แบบยืดหยุ่นในอุตสาหกรรมอาหาร
ข้อดีและข้อเสียของบรรจุภัณฑ์พลาสติก
ข้อดีของบรรจุภัณฑ์พลาสติก
1. น้ำหนักเบา ต้นทุนต่ำ
- พลาสติกมีน้ำหนักเบากว่าวัสดุอื่นๆ เช่น แก้วหรือโลหะ ทำให้ลดต้นทุนในการขนส่งและจัดเก็บ
- กระบวนการผลิตพลาสติกมีประสิทธิภาพสูง ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลง
2. ป้องกันความชื้นและยืดอายุอาหาร
- พลาสติกมีคุณสมบัติในการป้องกันความชื้นและอากาศได้ดี ทำให้สามารถรักษาความสดใหม่และยืดอายุการเก็บรักษาอาหาร
- ช่วยลดการสูญเสียอาหารและลดขยะอาหาร
3. ขึ้นรูปได้หลากหลาย ตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งาน
- พลาสติกสามารถขึ้นรูปได้หลากหลายรูปแบบ ทำให้สามารถออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับอาหารแต่ละประเภท
- สามารถเพิ่มคุณสมบัติพิเศษ เช่น ความแข็งแรง ความยืดหยุ่น หรือความทนทานต่อความร้อน
4. ความปลอดภัยในการใช้งาน
- พลาสติกบางชนิดได้รับการออกแบบมาให้มีความทนทานต่อสารเคมี และปลอดภัยต่อการสัมผัสอาหาร ทำให้ลดความเสี่ยงจากการปนเปื้อน
ข้อเสียของบรรจุภัณฑ์พลาสติก
1. ปัญหาสิ่งแวดล้อม – ขยะพลาสติกและการรีไซเคิล
- พลาสติกส่วนใหญ่ไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ทำให้เกิดปัญหาขยะพลาสติกล้นโลก
- การรีไซเคิลพลาสติกยังคงมีข้อจำกัด และต้องใช้พลังงานในการดำเนินการ
- ผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ทางทะเล ขยะพลาสติกจำนวนมากไหลลงสู่ทะเล ส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเลและระบบนิเวศน์
2. อาจมีสารปนเปื้อน หากใช้ผิดประเภท
- พลาสติกบางชนิดอาจมีสารเคมีอันตรายที่สามารถปนเปื้อนสู่อาหารได้ หากใช้ผิดประเภทหรือในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม
- ต้องเลือกใช้พลาสติกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับอาหาร
3. ไม่สามารถย่อยสลายได้ง่าย
- พลาสติกส่วนใหญ่ใช้เวลาย่อยสลายนานหลายร้อยปี ทำให้เกิดการสะสมในสิ่งแวดล้อม
4. ผลกระทบต่อสุขภาพ
- สารเคมีจากพลาสติกบางชนิดอาจส่งผลกระทบต่อระบบฮอร์โมนและสุขภาพของมนุษย์ในระยะยาว

ตารางเปรียบเทียบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิตของพลาสติก
ตารางเปรียบเทียบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิตของพลาสติกแต่ละประเภท โดยใช้หลักการประเมินผลกระทบตลอดวัฏจักรชีวิต (Life Cycle Assessment – LCA)
ประเภทพลาสติก | การสกัดวัตถุดิบ | การผลิต | การใช้งาน | การจัดการหลังใช้งาน | ผลกระทบโดยรวม |
PET (Polyethylene Terephthalate) | ใช้ปิโตรเลียม, ผลกระทบปานกลาง | ใช้พลังงาน, ปล่อยก๊าซเรือนกระจก | ปลอดภัย, น้ำหนักเบา | รีไซเคิลได้, แต่การรีไซเคิลยังไม่ทั่วถึง | ปานกลาง |
PP (Polypropylene) | ใช้ปิโตรเลียม, ผลกระทบปานกลาง | ใช้พลังงาน, ปล่อยก๊าซเรือนกระจก | ปลอดภัย, ทนความร้อน | รีไซเคิลได้, แต่การรีไซเคิลยังไม่แพร่หลาย | ปานกลาง |
PE (HDPE, LDPE) | ใช้ปิโตรเลียม, ผลกระทบปานกลาง | ใช้พลังงาน, ปล่อยก๊าซเรือนกระจก | ปลอดภัย, ยืดหยุ่น | รีไซเคิลได้, แต่การรีไซเคิลยังไม่ทั่วถึง | ปานกลาง |
PVC (Polyvinyl Chloride) | ใช้ปิโตรเลียมและคลอรีน, ผลกระทบสูง | ใช้พลังงาน, ปล่อยสารพิษ | อาจมีสารปนเปื้อน, ผลกระทบต่อสุขภาพ | รีไซเคิลยาก, ปล่อยสารพิษเมื่อเผา | สูง |
PS (Polystyrene) | ใช้ปิโตรเลียม, ผลกระทบปานกลาง | ใช้พลังงาน, ปล่อยสารพิษ | เปราะ, แตกง่าย, ไม่ปลอดภัยกับอาหารร้อน | รีไซเคิลยาก, ส่วนใหญ่เป็นขยะฝังกลบ | สูง |
PLA (Polylactic Acid) | ใช้พืช (เช่น ข้าวโพด), ผลกระทบต่ำ | ใช้พลังงาน, แต่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่า | ปลอดภัย, ย่อยสลายได้ในสภาวะที่เหมาะสม | ต้องการสภาวะที่เหมาะสมในการย่อยสลาย, อาจไม่ย่อยสลายในธรรมชาติ | ต่ำ-ปานกลาง |
การประเมินผลกระทบตลอดวัฏจักรชีวิต (Life Cycle Assessment – LCA)
LCA เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์หรือบริการตลอดวงจรชีวิต ตั้งแต่การสกัดวัตถุดิบ การผลิต การใช้งาน ไปจนถึงการจัดการหลังใช้งาน
ขั้นตอนของ LCA
- การกำหนดเป้าหมายและขอบเขต
- การวิเคราะห์ข้อมูลวัตถุดิบและพลังงาน
- การประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- การตีความผลการประเมิน
ผลกระทบของพลาสติกแต่ละประเภท
- PET , PP , PE
- มีผลกระทบปานกลาง ส่วนใหญ่มาจากกระบวนการผลิตที่ใช้พลังงานและปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- การรีไซเคิลช่วยลดผลกระทบได้ แต่ยังต้องพัฒนาให้แพร่หลายมากขึ้น
- PVC , PS
- มีผลกระทบสูง เนื่องจากใช้สารเคมีอันตรายในการผลิต และรีไซเคิลยาก
- การเผาทำลาย PVC ทำให้เกิดสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
- PLA
- มีผลกระทบต่ำกว่าพลาสติกจากปิโตรเลียม เนื่องจากใช้วัตถุดิบจากพืช
- แต่การย่อยสลาย PLA ต้องการสภาวะที่เหมาะสม ซึ่งอาจไม่เกิดขึ้นในธรรมชาติ
แนวทางการลดผลกระทบ
- การใช้พลาสติกรีไซเคิล ช่วยลดการใช้ปิโตรเลียมและพลังงาน
- การพัฒนาพลาสติกชีวภาพ ลดการพึ่งพาปิโตรเลียมและเพิ่มการใช้วัสดุจากธรรมชาติ
- การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ลดปริมาณพลาสติกและเพิ่มการนำกลับมาใช้ใหม่
- การจัดการขยะพลาสติกอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มการรีไซเคิลและลดการฝังกลบ
นวัตกรรมและเทรนด์ใหม่ของบรรจุภัณฑ์พลาสติก
- พลาสติกที่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพ (Biodegradable Plastics)
- พลาสติกรีไซเคิล 100% (Recycled PET – rPET)
- Active & Intelligent Packaging – พลาสติกที่ช่วยรักษาคุณภาพอาหาร
- Sustainable Plastic Packaging – บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
กฎหมายและมาตรฐานเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์พลาสติก
- มาตรฐานของ อย. และ FDA ที่เกี่ยวข้องกับพลาสติกที่สัมผัสอาหาร
- การจำกัดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
- นโยบายของอุตสาหกรรมอาหารเกี่ยวกับการลดพลาสติก
สรุป
บรรจุภัณฑ์พลาสติกยังคงเป็นวัสดุหลักในอุตสาหกรรมอาหาร ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น เช่น น้ำหนักเบา ต้นทุนต่ำ และความสามารถในการป้องกันความชื้น อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากขยะพลาสติกและการใช้พลาสติกอย่างไม่ยั่งยืนเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ การเลือกใช้พลาสติกให้เหมาะสมกับประเภทอาหาร การปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการสนับสนุนนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างประโยชน์ใช้สอยและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
Key Takeaways
- ความหลากหลายของพลาสติก : ทำความเข้าใจประเภทของพลาสติกและคุณสมบัติของแต่ละประเภท เพื่อเลือกใช้ให้เหมาะสมกับอาหารแต่ละชนิด
- ความปลอดภัยของอาหาร : เลือกใช้พลาสติกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับอาหาร เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของสารเคมี
- ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม : ตระหนักถึงผลกระทบของขยะพลาสติกต่อสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน
- การรีไซเคิล: ส่งเสริมการรีไซเคิลพลาสติกอย่างถูกต้อง เพื่อลดปริมาณขยะพลาสติก
- นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ : สนับสนุนการพัฒนาและใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ย่อยสลายได้หรือรีไซเคิลได้ง่าย
- กฎหมายและมาตรฐาน : ปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับบรรจุภัณฑ์พลาสติก
- การศึกษาและเรียนรู้ : ติดตามข้อมูลและเทคโนโลยีใหม่ๆ เกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์พลาสติก เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานให้ยั่งยืน